วันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2552

Strawberry Nutella

เมนูใหม่ประจำวันนี้!! ขอเสนอออออ
STRAWBERRY NUTELLA

ความจริงมันก็แค่ Strawberry จิ้มกะ Nutella ไม่ได้ต้องการทักษะงานครัวใดๆทั้งสิ้น แต่หลังจากคิดค้นวิธีกินแบบนี้พบว่ามันก็อร่อยดีนะ เลยเอามาใส่ไว้

Nutella ซื้อจากพารากอน 3 แพ็ค 31 บาท อร่อยมั่ก

ความจริงอยากโชว์ตุ๊กตาหมีมากกว่า แต่โชว์ตุ๊กตาอย่างเดียวคงไม่เวิร์ค เลยทำให้ดูมีสาระเพิ่มด้วยการใส่เมนูอาหารเข้าไปซะหน่อย ก็เท่านั้นเอง

ps. วันนีโดนมิ้นท์ว่าว่าเขียนบล็อกเพ้อเจ้อ อ่านดูก็ไม่เห็นเพ้อเจ้อเลย...หรือคำว่าเพ้อเจ้อของเราไม่เท่ากัน

น้ำทิพย์ น้ำดื่มคุณภาพที่คุณไว้วางใจ

ตอนแรกเขียนชื่อเรื่องว่า น้ำทิพย์ เฉยๆ แล้วเข้าไป google หารูปขวดน้ำมาประกอบ ผลออกมากลายเป็นรูปนางแบบน้ำทิพย์ จง...ซักอย่าง เลยต้องเปลี่ยนชื่อหัวข้อใหม่ กันการสับสนมา ณ บัดนี้

เดี๋ยวนี้เราๆหันมาดื่มน้ำขวดกันมากขึ้น เพราะทั้งสะดวก ซื้อง่าย ใช้แล้วทิ้ง แถมราคาไม่แพง เทียบกับการต้องนั่งกรอกน้ำใส่กระติกหิ้วขึ้นรถไฟฟ้าแล้ว น้ำดื่มบรรจุขวดสบายกว่าเป็นไหนๆ ยาม BTS ก็สบายใจ ไม่ต้องสงสัยว่าเราอาจลักลอบเอาระเบิดใส่กระติกน้ำมาทำร้ายชาวบ้าน(และสาวออฟฟิศจากฝั่งสีลม)ใน BTS อีกด้วย อย่างไรก็ตาม น้ำดื่มบรรจุขวดมีมากมายหลายชนิดให้เลือก...แต่ยี่ห้อที่ประทับใจเรามากที่สุด คือ " น้ำทิพย์ " ไม่ใช่เพราะกินแล้วจะอิ่มทิพย์ รสชาติเหมือนน้ำทิพย์จากสวรรค์ กินแล้วได้ทิป หรือกินแล้วสวยอย่างน้ำทิพย์แต่อย่างใด ความลับการตลาดของน้ำทิพย์อยู่ที่ ฝา!!

จากการเฝ้าสังเกตพฤติกรรมการเปิดขวดน้ำของประชากรแพทยศาสตร์ จุฬาฯมาซักพัก พบว่าหลายคนประสบปัญหาแบบเดียวกันคือเปิดฝาไม่ได้ซักที เพราะมันเปิดยากมาก มาวิเคราะห์กันเล่นๆดีกว่าว่าทำไมมันต้องทำให้ยากขนาดนี้ด้วย เมื่อเทียบกับน้ำดื่มยี่ห้ออื่นๆอย่างเนสเล่ หรือคริสตัล



1. เพื่อตอกย้ำสโลแกน น้ำดื่มคุณภาพที่คุณไว้วางใจ : นอกจากจะมีพลาสติกหุ้มอยู่อีกชั้นก่อนแล้ว ทางบริษัทกลัวว่าผู้บริโภคจะไม่สามารถเข้าาใจความปรารถนาดีแห่งคุณภาพ เลยต้องทำฝาให้แน่นหนา เพื่อประกาศให้รู้ว่า กว่าจะได้ดื่มน้ำของเรา นอกจากจะผ่านโอโซนและแสงยูวีแล้ว ยังต้องผ่านการเปิดฝาที่ยากลำบากมาด้วย ให้เห็นชัดๆไปเลยว่า เราเน้นคุณภาพจริงๆ ขนาดพลาสติกที่เอามาทำฝายังแน่นหนากว่ายี่ห้ออื่นๆ ไม่ใช่ซี้ซั้วจากไหนมาเปิดกินก็ได้นะคุณ

2. เพื่อความภูมิใจของผู้บริโภค : เพราะมันเปิดยากขนาดนี้ กว่าจะเปิดได้แต่ละที ต้องหมุนๆๆๆๆ ขบคิดกลวิธีให้เปิดได้ บางคนอาจถึงขั้นแตกแรง หาจุดหมุน ฝึกสมองไปในตัว แถมใครเปิดได้ ยังเอาไปอวดเพื่อนข้างๆที่ยังเปิดไม่ได้ได้ด้วยว่า " เฮ้ย...แค่นี้ จิ๊บๆ " คิดดูสิว่าเจ๋งขนาดไหน แค่เปิดขวดน้ำได้ สบายใจไปทั้งวัน น่าภูมิใจขนาดไหน คิดดู

3. เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีกับคนรอบข้าง : ข้อนี้เหมาะสำหรับคนที่อยากกินน้ำเร็วๆ ไม่อยากพยายามหรือต้องการความภูมิใจมากเท่าคนในข้อ 2 เลยต้องยื่นขวดน้ำให้คนข้างๆพร้อมกับกล่าวว่า " ช่วยเปิดขวดน้ำให้เราหน่อยสิ " เกิดใครได้พูดกับคนไม่รู้จัก ก็ได้ผูกมิตรกันไป พูดกับเพื่อนสนิทก็ได้แสดงความไว้วางใจ(ในพลังของเพื่อนคนนั้น) หรือใครเกิดไปพูดกับคนที่แอบชอบ ดีไม่ดีอาจเป็นการเริ่มต้นความสัมพันธ์กันด้วยซะนี่ สงสัยเด็กไทยยุคต่อไปอาจต้องมาขอบคุณน้ำทิพย์ที่ทำให้เค้าเกิดมา ใครจะไปรู้

4. เพื่อรสชาติน้ำ ให้มันทิพย์สมชื่อ : น้ำเปล่า จะกินให้อร่อยกว่ากันมันก็ทำได้แค่นิดเดียว แต่ลองคิดถึงคนหิวน้ำแทบตาย แถมข้างกายยังไม่มีวี่แววคนมาช่วยเปิดขวดให้ งานนี้ก็ต้องลุยหมุนขวดกันเอาเองลูกเดียว พอเปิดได้เท่านั้นแหละ รสชาติน้ำหยดแรกจากการลงแรงซื้อและเปิดมันดูคุ้มค่าเสียนี่กระไร อร่อยยกนิ้วให้เลย...บริษัทอะไรจะคิดได้ล้ำลึกขนาดนี้ นับถือจริงๆ

แต่ไม่ว่าฝาน้ำทิพย์จะถูกผลิตขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์ใด เราก็หวังว่าทุกคนจะกินน้ำให้ครบอย่างน้อย 8 แก้วเพื่อสุขภาพที่ดีกันทุกคน จะยี่ห้ออะไรก็กินไปเถอะ ขึ้นชื่อว่าน้ำ(สะอาด) ยังไงก็มีประโยชน์ต่อร่างกายนะ

ps. หวังว่าบริษัทน้ำทิพย์จะไม่มาฟ้องร้องค่าเสียหายใดๆจากงานเขียนครั้งนี้ เพราะนี่เขียนชมล้วนๆเลยนะ 555

วันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ไปดู AVARTAR กับเจี๊ยบ

วันนี้ไปดูเรื่อง AVATAR มากับเจี๊ยบ เพิ่งรู้ข่าวว่า Grand EGV กำลังจะปิดตัวลงเพราะจะเปลี่ยนมาเป็นลาน Ice skating ภายในปี 2009 นี้โรงหนังก็จะถูกปิดตัวลงไป

วันนี้ นอกจากจะดูหนังแล้ว ยังบังเอิญมากๆที่ได้เจอกับพี่ป๊อก นนท์ และพี่กอล์ฟ @ Sizzler Siam center เพราะกำลังจะวิ่งไปดูหนังอย่างรวดเร็ว แต่ตาดีเห็นพี่กอล์ฟเดินกินอานตี้ แอนด์ เลยไปทักเข้า จึงได้เจอกัน...ทุกคนดูเหมือนเดิมมากถึงมากที่สุด ยกเว้นนนท์ที่ดูผอมลง แต่ก็ยังตัวใหญ่เหมือนหมีควายอย่างเดิม หนังจะเริ่มแล้วเลยต้องรีบวิ่งไป ได้แค่โบกมือทักทายอย่างบ้าคลั่งเท่านั้นเอง

หลังจากวิ่งเข้าโรงหนังเรียบร้อย ก็พบว่าหนังดีในระดับใช้ได้ ถ้ามองในเรื่องของ CG รวมถึงจินตนาการของคนทำหนังที่ทำออกมาได้แปลก แตกต่างดี โดยเฉพาะมนุษย์ต่างดาวพวกนั้น แต่ด้วยเนื้อเรื่อง คงจะบอกอย่างเต็มปากเต็มคำไม่ได้ว่าถูกใจเรามากขนาดนั้น เพราะเนื้อเรื่องโดยรวมค่อนข้างเดาได้ และจุดที่พอจะพีคหรือน่าจะเป็นจุดสำคัญของเรื่องกลับถูกตัดตอนออกไป ไม่ได้เห็นเนื้อหาอะไรสักเท่าไหร่ แต่ยังไงก็ถือว่าดีกว่าหนังเรื่องก่อนหน้านี้อย่าง Terminator 3 อยู่หลายขุมเหมือนกัน ส่วนคนข้างๆมากับแฟน เรานั่งข้างๆก็แอบได้ยินเค้าคุยกันตอนที่พระเอกขี่นกสีแดงๆกลับมาประกาศตัวว่าได้เป็นโทรัคๆ อะไรก็จำไม่ได้(ศัพท์เรื่องนี้พิสดารดี ออกจากโรงมาเลยลืมในเวลาอันรวดเร็ว)เข้าใจว่าคนเขียนบทคงพยายามทำให้ดูเป็นฉากที่ยิ่งใหญ่ ให้คนดูอุทานว่า " ทำไมพระเอกมันเจ๋งอย่างงี้วะ " แต่คนข้างๆกลับมีพัฒนาการก้าวล้ำนำหน้าไปอีก 1 ขั้นด้วยการอุทานกับแฟนสาวว่า " ยังกะเอเอฟถูกโหวตกลับเข้าบ้านอีกรอบเลยอ่ะ " ด้วยความที่ไม่ใช่แฟนเอเอฟ จึงไม่สามารถเข้าใจคำอุทานเหล่านี้ได้อย่างแจ่มแจ้ง จึงคิดจะเก็บกลับมาถามก้อย/บี๊ ว่ามันเป็นยังไง?


60% เป็นตัวแบบนี้ทั้งเรื่อง ให้ดูแค่ฝีมืออย่างเดียวพอ เพราะความหล่อหาเท่าไหร่ก็ไม่มีทางเจอ

ผ่านไป 3 ชม. ก็ถูกปล่อยตัวออกมาจากโรงหนัง กึ่งๆวิ่งออกมาเพราะเจี๊ยบอยากเข้าห้องน้ำมาก เลยต้องวิ่งหนีฝูงชนที่อาจจะกรูกันตามมาได้ แล้วก็ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ
กลับมาเปิด IMDB ดูว่านางเอกคือใคร เลยรู้ว่าดาราคือ Zoe Saldana ที่เคยเล่น Star Trek ver. ล่าสุดที่เพิ่งดูไป ส่วนพระเอกคือคนเล่นเรื่อง Terminator 4 ยังคิดอยู่ว่าทำไมหน้าคุ้นๆ
ตอนนี้กำลังอยากดู Sherlock Holmes และเพิ่งเห็นว่ากำกับโดย Guy Richie อดีตสามีมาดอนน่าที่หนังแต่ละเรื่องที่เค้ากำกับเรานับเรื่องดูได้เลย ไม่รู้ว่าจะฝากความหวังให้กับหนังเรื่องนี้ได้ซักกี่ % กันเชียว

วันศุกร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2552

Everybody loves Christmas

แม้ว่าเทศกาลคริสมาสต์จะเป็นเทศกาลชาวคริสต์ แต่คนไทยส่วนใหญ่(ซึ่งนับถือศาสนาพุทธ)ก็ไม่ได้รู้สึกแปลกแยกอะไร กลับร่วมฉลองวันคริสมาสต์อย่างสนุกสนาน แม้บางทีจะไม่เข้สใจเท่าไหร่ว่าวันนี้มีไว้เพื่ออะไร รู้แค่ว่าเค้าฉลองกัน ไทยเราอย่าน้อยหน้าต้องฉลองกะเค้ามั่ง
ที่พูดๆมานี่ไม่ได้บอกว่าการฉลองเป็นเรื่องเลวร้ายแต่อย่างใด แต่เรากลับมองว่ามันแสดงออกถึงความน่ารักของชาวไทยเสียมากกว่าที่ไม่ว่างานไหนๆเราก็มีส่วนร่วมกับเขาได้โดยไม่เคอะเขิน และพร้อมจะสนุกสนานกับทุกๆเทศกาลโดยไม่แบ่งแยก เรียกว่า ขอแค่มีความสุข จะอะไรยังไงพี่ไทยพร้อม!! ( เหลืออย่างเดียวที่ยังไม่เห็นฉลองกันคือวันฮัลโลวีน เพราะผู้ปกครองคงไม่อยากปล่อยบุตรหลานออกมาขอลูกอมแล้วซมซานกลับบ้านเพราะโดนโจรมุมตึกโจมตี )

อนึ่ง ธรรมเนียมอย่างนึงในช่วงนี้ของปีสำหรับเราคือการไปเดินดูไฟต้นคริสมาสต์ในย่านชอปปิ้งหลักของกทม.อย่างสยามพารากอน, CentralWorld Plaza, และสยามแสควร์ ถือเป็นวันออกกำลังกายแห่งชาติเลยก็ว่าได้ เพราะต้องเดินกันเป็นกิโลๆ เมื่อยก็เมื่อย แต่ก็ต้องไปทุกปี ถ้าปีไหนไม่ไปคงรู้สึกขาดอะไรบางอย่าง
ความจริงเดินดูไฟอาจจะเป็นเหตุรองๆสำหรับฉัน แต่ที่ต้องไปทุกปีเพราะจะได้ออกไปสังสรรค์กับเพื่อนๆหลังจากที่เหน็ดเหนื่อยจากการสอบส่งท้ายปี ที่วนเวียนเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน แถมช่วงนั้นที่ห้างจะคึกคักกันเป็นพิเศษ จะทำอะไรก็ไม่มีใครว่า ไปยืนโพสท่าจะหุ่น ถ้าไม่ใช่ช่วงคริสมาสต์ก็คงดูตลก ไม่ก็พี่ๆSecurity Guard จะว่าวิ่งไล่จับเอา

ไปติดต่อกันมา 3 ปีแล้ว ปีแรกคือตอนปี 1 จำได้ว่าไปกะพวก remnant นี่แหละ แต่ไปซะตรงวันคริสมาสต์พอดี คนเลยเยอะอย่างไม่น่าเชื่อ เดินเบียดกันไปเบียดกันมา ก็สนุกไปอีกแบบ
ปี 2 ก็ยังคงเกาะกลุ่ม remnant ไปกันเหมือนเดิม แต่ฉลาดขึ้นมานิดที่ไปไม่ตรงวัน น่าจะ 24 ธันวามั้ง ไปตอนคริสมาสต์อีฟพอดี คนก็ยังเยอะอยู่ดี แต่คงไม่เท่า 25 หรอก - - คิดเองเองน่ะ



ปี 3 ( ปีนี้ ) ก็ยังคงไปกะ remnant เหมือนเดิม แต่มีฝนมาร่วมแจมด้วย ความจริงออกแนวมาเป็นช่างกล้องให้มากกว่า ก็เลยสบายไป ดูไฟปีนี้มีหน้าที่อย่างเดียวคือ โพสต์!! ปีนี้เลื่อนวันดูไปออกมาห่างเชียว เป็นวันที่ 22 เห็นแนวโน้มมา 3 ปี ไม่รู้ว่าปีหน้า(ถ้ายังได้ไป)จะเลื่อนไปเป็นตั้งแต่ต้นเดือนธันวารึเปล่าก็ไม่รู้ แถมปีนี้มีพิเศษคือ ได้กินเลี้ยงวันเกิดฟรีพอดี ก็ขอบคุณเพื่อนๆทุกคน เห็ดเข็มทองที่ชาบูชิทำให้เราเบื่อเห็ดเข็มทองได้อย่างไม่น่าเชื่อว่าเราจะพูดคำนี้ออกมาก แม้ว่าจะเลื่อนออกมาหลายวัน แต่ฝูงชนยังแห่แหนกันมาล้นหลามจนไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองว่าจะมากได้ขนาดนี้ แถมมีบางคู่มาถ่ายรูปแต่งงานอีกนะ โรแมนติกแบบร้อนๆและคนเยอะๆดีๆนี่เอง แต่...ก็อาจจะเป็นความสุขของเค้าก็ได้มั้ง

สรุปว่า 3 ปีที่ผ่านมาการไปดูไฟคริสมาสต์มันก็หลากหลายดีจริงๆ แถมแต่ละปีความรู้สึกบางเรื่องก็ต่างออกไป บางเรื่องก็เหมือนเดิม ทำให้คิดได้ว่า ธันวาคมมันก็ผ่านมาเร็วเหมือนกัน...และแต่ละปี คนที่จะก้าวข้ามเดือนธันวาคมนี้ไปด้วยกันก็มีมากมายหลากหลาย หลากสถานการณ์ อย่างน้อยที่สังเกตชัดๆเลยคือ ปีนี้ในรูปถ่ายเราอ้วนขึ้นแถมผมหน้าม้าสั้นเต่อก็ฮารับกับอารมณ์เทศกาลดีซะด้วยสินะ

วันพฤหัสบดีที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2552

The Youtube Story Page 1

ตอนนี้ youtube กลายเป็นหนึ่งในเว็บหลักที่ต้องเข้าไปดูทุกวัน ไปหางานแปลกๆดุ งานที่ประทับใจและหาที่ไหนไม่เจอ เราว่ามันเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ที่คนทั้งโลกมาแชร์ประสบการณ์กันนะ เสียดายที่คนส่วนใหญ่ที่รู้จักชอบเข้าไปแค่ฟังเพลง หรือดู Trailer หนังเท่านั้นเอง

ส่วน Video นี้เป็นหนึ่งใน Video ที่ชอบมากถึงมากที่สุด ชอบตรงที่สะดุดตาในไอเดียและภาพการ์ตูนที่ดูเรียบง่าย ไม่ได้เน้นความอลังการ แต่เน้นไปที่เนื้อเรื่อง และการดำเนินเรื่องที่ไม่อาศัยคำพูดประกอบภาพใดๆ แต่สื่อความหายออกมาได้ครบถ้วน แถมความหมายยังแปลได้หลายแง่มุม แล้วแต่ความคิดของคนอ่าน Vid อันนี้มีหลายเวอร์ชั่นมากใน YT แต่อันนี้คงเป็น Ver. Original และสมบูรณ์ที่สุดแล้วล่ะ




เคยเอาให้เพื่อนดู บางคนบอกแค่ว่าภาพสวย หรือไม่ก็น่ารักดี...ไม่เห็นมีใครมานั่งตีความหมายของเนื้อเรื่องกันเลยซักคน ตัวเองเลยแปลกใจว่า เราเข้าใจเองอยู่คนเดียว หรือว่าความจริงคนเขียนไม่ได้ต้องการสื่ออะไรอยู่แล้วกันแน่

ps. ผลงานนี้เป็นของ Jimmy Liao นักเขียนที่เราทุ่มทุนซื้อหนังสือทุกเล่มของเค้า ตอนนี้กำลังวางแผนจะซื้อภาคภาษาอังกฤษอยู่พอดี ต้องรอเก็บตังก์เป็นการใหญ่ เพราะเล่มรวบรวมผลงานชิ้นใหญ่ของเค้าตั้ง 3400 ไทยบาทโดยประมาณ ลด 30% แล้วยังแพงอยู่เลย

วันพุธที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2552

Welcome Myself to my blog

This is my first blog!!

แม้ว่าการเขียนบล๊อกจะเกิดขึ้นมาหลายปีแล้วก็ตาม แต่ก็เพิ่งคิดอยากจะทำบล็อกของตัวเองขึ้นมาแบบจริงจังและไม่รู้ว่าจะเขียนได้ตลอกรอดฝั่งรึเปล่าก็ไม่รู้

และความจริงก็ไม่ได้อยากจะแชร์เรื่องราวหรืออื่นๆใดๆกับชาวบ้านร้านช่องแถวๆนี้ด้วย
เพียงแค่รู้สึกว่าอยากบันทึกหรือทำอะไรซักอย่างเงียบๆคนเดียวเท่านั้นเอง เหมือนช่วงหลังๆ มีไอเดียทำโน่นนี่นั่น แถมได้เห็นอะไรแปลกตามากมายเพิ่มขึ้นด้วยมั้ง เลยอยากเก็บเอามาเล่าให้ตัวเองในอีก 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปีฟังว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างเท่านั้นเอง

Kwan 23 DEC 2009 : The day I've skip USMLE Tutor class again!